เติมลมไนโตรเจน VS เติมลมธรรมดา อะไรดีกว่ากัน?

เติมลมไนโตรเจน VS เติมลมธรรมดา

เติมลมไนโตรเจน VS เติมลมธรรมดา  อะไรดีกว่ากัน?

เติมลมไนโตรเจน VS เติมลมธรรมดา

การเติมลมยาง เป็นสิ่งที่ทุกคนทราบดีว่ามีความสำคัญต่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพการขับขี่ แต่หลายคนอาจไม่ทราบว่า มีตัวเลือกการเติมลมยางสองแบบ นั่นคือ ลมธรรมดา และ ลมไนโตรเจน

บทความนี้ จะเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของทั้งสองแบบ เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าแบบไหนเหมาะกับคุณ

1. ลมธรรมดา

  • ส่วนผสม: ประกอบด้วยไนโตรเจนประมาณ 78% ออกซิเจน 21% และก๊าซอื่นๆ 1%
  • ข้อดี:
    • หาเติมได้ง่ายตามปั๊มน้ำมันทั่วไป
    • ฟรีค่าบริการ
    • ใช้เวลาเติมสั้น
  • ข้อเสีย:
    • แรงดันลมรั่วซึมได้ง่ายกว่า
    • ต้องเติมลมบ่อยกว่า
    • เสี่ยงต่อการสึกหรอของยางจากออกซิเจน
    • อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการขับขี่

2. ลมไนโตรเจน

  • ส่วนผสม: ไนโตรเจนบริสุทธิ์ประมาณ 93-99%
  • ข้อดี:
    • แรงดันลมรั่วซึมได้น้อยกว่า ช่วยให้รักษาแรงดันลมได้นานขึ้น
    • ช่วยลดการสึกหรอของยาง
    • เพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่ เช่น การยึดเกาะถนน การประหยัดน้ำมัน
    • อายุการใช้งานยาวนานกว่า
  • ข้อเสีย:
    • หาเติมได้ยากกว่าลมธรรมดา
    • เสียค่าบริการ
    • ใช้เวลาเติมนานกว่า

สรุป

การเติมลมไนโตรเจน มีข้อดีหลายประการ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบาย ประสิทธิภาพ และอายุการใช้งานที่ยาวนาน แต่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

การเติมลมธรรมดา หาเติมได้ง่าย ฟรีค่าบริการ แต่ต้องเติมลมบ่อยกว่า และอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการขับขี่

การตัดสินใจว่าจะเติมลมแบบไหน ขึ้นอยู่กับความต้องการ งบประมาณ และพฤติกรรมการขับขี่ของคุณ

เคล็ดลับเพิ่มเติม

  • ไม่ว่าจะเติมลมแบบไหน ควรตรวจสอบแรงดันลมยางสม่ำเสมอตามคำแนะนำของผู้ผลิต
  • ควรเติมลมยางในสภาพอุณหภูมิปกติ
  • เลือกใช้หัวเติมลมยางที่มีคุณภาพ

หวังว่าบทความนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจเลือกเติมลมยางรถยนต์ของคุณ